top of page

แผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง ตอนที่ 3

อัปเดตเมื่อ 3 ส.ค. 2565


เราเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน

ย้อนกลับมาที่กรุงเทพฯ ระหว่างวันทำงานช่วงปีพ.ศ. ๒๕๔๑ ทุกวันผมต้องคอยต้อนรับผู้แทนจากธนาคารต่างประเทศที่เป็นเจ้าหนี้ของบมจ.ดีแทค และบมจ.ยูคอม จาก ๓๐ สถาบัน มีจำนวนกว่า ๑๕ สถาบันที่ซ้ำกันสำหรับทั้ง ๒ บมจ. คือเขาให้ทั้งบมจ.ดีแทค และ บมจ.ยูคอม กู้พร้อมกัน และผมยังต้องคอยไปเปิดประชุมผู้ถือหุ้นกู้เงินบาทของบมจ.ยูคอม ยอดเงินหุ้นกู้เงินบาทมีประมาณ ๒,๐๐๐ ล้านบาท (สองพันล้านบาท) เวลาประชุม พวกเจ้าหน้าที่กองทุนหนุ่มๆ ที่เคยหมั่นไส้ความสำเร็จผม ก็ได้สำเร็จความสะใจในอารมณ์ด้วยการตำหนิแบบแรงๆ ใส่ผมทุกนัด ผมก็ได้แต่ก้มหน้ารับฟัง โดยไม่มีเงาหัวลูกน้องผู้บริหารระดับสูงรุ่นนั้นสักคนมาเป็นเพื่อน

เจ้าหนี้ทุกท่านต้องการทราบแผนชำระเงินคืนอย่างเดียว คำถามเช่น "เมื่อไหร่จะเพิ่มทุนเพื่อนำเงินมาลดหนี้? " "แผนการตลาดจะปรับปรุงให้ดีขึ้นได้อย่างไร ? " "ยอดขายทำให้เพิ่มขึ้นได้อย่างไร ? " "จะลดค่าใช้จ่ายลงสักครึ่งหนึ่งได้ไหม? แล้วเพิ่มยอดขายเป็นสองเท่าได้ไหม? " "จะปลดพนักงานออกสักครึ่งเพื่อลดค่าใช้จ่ายได้ไหม? "

 

ผมเลยต้องประชุมลูกน้อง เพื่อขอทราบถึงสถานะภาพทางการเงินของบริษัท และยอดขายของบริษัททุก ๒ สัปดาห์ เจ้าหน้าที่ของฝ่ายขายจะรายงานถึงความทดถอยของจำนวนลูกค้าโทรศัพท์มือถือที่น้อยลงทุกเดือน และปริมาณหนี้เสีย หนี้สูญที่เพิ่มขึ้นโดยลำดับ ก็คนไม่มีเงินจะจ่ายน่ะครับ

วันหนึ่งขณะที่ผมนั่งคิดตามสิ่งที่เจ้าหน้าที่ระดับกลาง (เจ้าหน้าที่ระดับสูงหายหัวหมด ไม่กล้ามารายงานเอง) กำลังบรรยายถึงยอดลูกค้าที่ลดลง เดือนหนึ่งหลายหมื่นคน ช่วงปีพ.ศ.๒๕๔๒ บมจ.ดีแทคมีลูกค้าอยู่ประมาณ ๑ ล้าน ๑ แสนคน ในอัตราที่ลูกค้าสูญหายไปในแต่ละเดือน ไม่ถึงปีครึ่งบริษัทของเราก็จะไม่มีลูกค้าเหลืออยู่แน่

 

วันนั้นเอง ผมเริ่มเข้าใจถึงความสำคัญของทุกคนในชาติของเรา ในสังคมของเรา คนชั่วเหมือนเชื้อโรค คนดีเหมือนภูมิคุ้มกัน ตัวเราเหมือนอวัยวะ ถ้าเชื้อโรคกำเริบ ร่วมมือกันเข้าเกาะกินชาติ ระบบเศรษฐกิจ บริษัทห้างร้าน ประชาชน และคนที่ดีๆ จำนวนมากถูกทำลายขีดความสามารถในการดำรงชีวิตลง เราก็เหมือนร่างกายที่ภูมิคุ้มกันถูกทำลายไป อา!! "เราเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน" นั่นเอง

มีญาติที่ดีส่งบทกวีร่วมสมัยยาวหนึ่งหน้า เรื่อง "ตากับตีน" มาให้อ่าน ผมอ่านแล้วหัวเราะไม่ออก เพราะสมเพชตัวเอง เพราะไม่ว่าผมจะเลือกตัวเองเป็นตา ที่ทะเลาะกับตีนว่าตัวเองสำคัญกว่า มองเห็นและพาตีนไปได้ทุกแห่ง หรือเลือกเป็นตีน ที่บอกว่า ถ้าไม่มีฉันเดินพาไป ตาก็คงได้แต่มอง สุดท้าย ตา ก็หลับตาลง ตีนก็เดินพาตกเหวตาย

บางท่านอาจจะคิดได้ว่า "แหม! กว่าจะคิดได้ ก็แก่เกือบห้าสิบปีแล้ว" คงจะจริงถ้าเราคาดหวังว่าจะตายเมื่ออายุหกสิบ แต่สำหรับผม "วันนี้ ก็มีค่ามากที่สุดแล้ว" ขอผมได้สู้วันนี้อย่างเต็มที่ ถ้าพรุ่งนี้มา ผมจะสู้ต่อ เมื่อวานทำอะไรผิดพลาดไป คบคนพาล พาลพาไปหาผิด วันนี้ คบบัณฑิต คบกัลยาณมิตร บัณฑิตพาไปหาผล ปรับปรุงตัวเอง ผมว่านี่เหละ "ลูกผู้ชาย"

เมื่อบมจ.ยูคอม (บริษัทแม่ของบมจ.ดีแทค) เซ็นสัญญาประนอมหนี้ และเริ่มทำงานหนักเพื่อใช้หนี้ ปรับปรุงคุณภาพของผลงานและทรัพยากรบุคคล ในเดือนมีนาคม พ.ศ. ๒๕๔๒ นั้น บมจ.ยูคอมมีหนี้สินที่เพิ่มขึ้นแล้วตามอัตราแลกเปลี่ยนใหม่เป็น ๒๑,๑๐๐ ล้านบาท (สองหมื่นหนึ่งพันหนึ่งร้อยล้านบาท) ขณะนี้เดือนมิถุนายน ปีพ.ศ.๒๕๔๗ หนี้สินได้ลดเหลือ ๕,๗๙๐ ล้านบาท (ห้าพันเจ็ดร้อยเก้าสิบล้านบาท) ซึ่งเงินจำนวนนี้เป็นหนี้สินหมุนเวียนในธุรกิจ ๑,๐๐๐ ล้านบาท (หนึ่งพันล้านบาท) และหนี้ซึ่งนำไปลงทุนในธุรกิจอีกสี่พันเจ็ดร้อยเก้าสิบล้านบาท

Comments


มูลนิธิร่วมด้วยช่วยกันสำนึกรักบ้านเกิด

เลขที่ 499 อาคารเบญจจินดา ชั้น 5A ถ.กำแพงเพชร 6 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม 10900

โทร. 02-016-5555 ต่อ 1089

แฟกซ์. 02-016-5606
อีเมล์: rbk_foundation@rakbankerd.com

Logo มูลนิธิร่วมด้วยช่วยกันสำนึกรักบ้านเกิด

© 2024 by ruamduayfoundation |  Cookies Policy  |  Privacy Policy

bottom of page