top of page

แผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง ตอนที่ 1

อัปเดตเมื่อ 3 ส.ค. 2565


สวัสดีครับท่านผู้อ่านที่เคารพ บทความของผมเรื่อง "แผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง" มีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะนำเสนอสิ่งที่กำลังทำอยู่ และความเชื่อมั่นในโอกาสที่ประเทศไทยเราจะพลิกผันสถานการณ์จากที่เสียเปรียบชาติมหาอำนาจ มาเป็นโอกาสทอง และสร้างความสมประโยชน์กับชาวโลกชาติอื่นๆ

ก่อนที่ผมจะนำเสนอหรือถ่ายทอดความคิด ประสบการณ์ สู่ท่านผู้อ่าน ผมใคร่ขอขอบพระคุณคุณพ่อของผมผู้ได้จากพวกผมไปก่อนเวลาอันควรกว่า ๒๐ ปีแล้ว ขอบพระคุณท่าน ที่ท่านทำให้ผมคุ้นเคยกับการทำหนังสือพิมพ์ เมื่อผมเด็กๆ ท่านได้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ "ข่าวสยาม" ขึ้น ผมจึงไม่ต้องเสียเวลาคิดอะไรมากที่จะร่วมมือกับพรรคพวกเปิดหนังสือพิมพ์ "อาทิตย์วิเคราะห์" ขึ้น ซึ่งต่อมาก็กลายเป็นหนังสือพิมพ์ "ร่วมด้วยช่วยกัน"


และผมขอขอบคุณพี่ชาย ๒ ท่าน ที่ได้เปิดโอกาสให้ผมหัดเขียนบทความบนหนังสือพิมพ์ของทั้ง ๒ ท่าน ท่านแรกคือ คุณสนธิ ลิ้มทองกุล เจ้าของหนังสือพิมพ์ "ผู้จัดการ" และท่านที่สองคือ คุณขรรค์ชัย บุนปาน เจ้าของหนังสือพิมพ์ "มติชน" ขอกราบขอบพระคุณด้วยครับ

ประมาณต้นปีพ.ศ.๒๕๔๐ ก่อนที่วิกฤตเศรษฐกิจจะเกิดขึ้นในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้นี้ ผมก็เหมือนนักธุรกิจชาวเอเซียส่วนใหญ่ที่คิดว่า ศตวรรษนี้เป็นของพวกเราแล้ว โลกเป็นของชาวเอเซียเสียที หลังจากที่พวกเราต้องคอยเดินตามหลังประเทศมหาอำนาจเช่น สหรัฐอเมริกาและประเทศต่างๆ ในยุโรปตะวันตกมานานนับร้อยปี คงเป็นเพราะพวกเราชาวตะวันออกต้องขวนขวายไปเรียนรู้ไขว่คว้าเอาปริญญาการศึกษาที่ประเทศเหล่านี้ ปีๆ หนึ่งนับเป็นหมื่นๆ คน ที่มหาวิทยาลัย "นอร์ทเทริน อิลินอยส์"


ในรัฐอิลินอยส์ซึ่งผมได้ไปศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษานั้น มีชาวไทย ๑๗ ท่านศึกษาอยู่ และมีชาวมาเลเซียซึ่งเป็นนักเรียนทุนถึง ๔๕๐ คนเรียนอยู่ มากขนาดทางมหาวิทยาลัยต้องจัดห้องพักผ่อนที่เรียกว่า "ห้องโถงมาเลเซีย" ไว้ให้พวกเขาใช้กัน



ด้วยวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน ความไม่คล่องในการพูดภาษาอังกฤษ รูปร่าง หน้าตาที่แตกต่างกัน ทำให้พวกเราส่วนใหญ่จะมีความรู้สึกที่ด้อยกว่าชาวตะวันตก ในเวลาที่เราอาศัยอยู่ในประเทศของเขา

บางครั้งพวกเขาก็ตั้งใจที่จะทำให้เรารู้สึกเช่นนั้นด้วย แต่ไม่ใช่ทุกคนจะมีอุปนิสัยที่ดูถูกเหยียดหยามเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน คนดีมีความเจริญทางจิตใจก็มีมากเช่นกัน

ความรู้สึกที่เหมือนจะเป็นปมด้อยหรือน้อยใจเหล่านี้ ฝังอยู่ลึกๆ ในใจของนักเรียนจำนวนมากที่จบการศึกษาแล้วเดินทางกับถิ่นฐานของตัวเอง บวกกับความคุ้นเคยในวิถีชีวิตของชาวตะวันตกในเรื่อง "บริโภคนิยม" มันเป็นระเบิดเวลาต่อมาที่มีผลสะท้อนต่อตัวบุคคลเหล่านี้ที่เริ่มเจริญเติบโตขึ้นเป็นนักธุรกิจใหญ่ในฮ่องกง มาเลเซีย ไทย อินโดนีเซีย สะท้อนไปถึงขบวนการนึกคิด และตัดสินใจในการลงทุน การขยายกิจการ เป็นต้น


ผมเชื่อว่า นี่คือระเบิดเวลาที่ระเบิดขึ้นอีก ๒๐ ปีต่อมาภายใต้สิ่งแวดล้อมที่ดูดีไปหมด สภาพคล่องของเงินสดในตลาด อัตราดอกเบี้ยที่สูงในประเทศสำหรับเงินบาท และการกู้เงินสกุลต่างประเทศในอัตราดอกเบี้ยต่ำๆ ประเภทที่ต่างจากอัตราดอกเบี้ยเงินฝากถึง๑๐ เปอร์เซ็นต์เป็นเรื่องธรรมดา เรื่องที่ไปกู้เงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกามาในอัตรา ๓ เปอร์เซ็นต์ แล้วไปฝากบริษัทไฟแน้นซ์ได้ดอกเบี้ย ๑๔ เปอร์เซ็นต์ เป็นเรื่องธรรมดา

บริษัทภายใต้การดูแลของผม ก็กู้เงินต่างประเทศเข้ามาลงทุนในกิจการสื่อสารโทรคมนาคมเป็นจำนวนมาก ระบบสื่อสารแบบไหนที่ฝรั่งเขาว่าดีและคืออนาคตของมนุษยชาติแล้ว เราลงทุนทันที ไม่ต้องคิดมาก โครงการส่วนใหญ่ก็แย่งกันลงทุน และส่วนใหญ่ก็ขาดทุน ยกเว้นธุรกิจเดียวที่กลายเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้อย่างดี นั่นคือ ธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือที่เราเรียกกันว่า "โทรศัพท์มือถือ" นั่นเอง





Commentaires


มูลนิธิร่วมด้วยช่วยกันสำนึกรักบ้านเกิด

เลขที่ 499 อาคารเบญจจินดา ชั้น 5A ถ.กำแพงเพชร 6 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม 10900

โทร. 02-016-5555 ต่อ 1089

แฟกซ์. 02-016-5606
อีเมล์: rbk_foundation@rakbankerd.com

Logo มูลนิธิร่วมด้วยช่วยกันสำนึกรักบ้านเกิด

© 2024 by ruamduayfoundation |  Cookies Policy  |  Privacy Policy

bottom of page