แผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง ตอนที่ 6

สร้างเครือข่ายเชื่อมโยงคนดี

ในยุคกึ่งพุทธกาลนี้พวกเราชาวไทยทั้งหลายคือ "ต้นข้าวหอมมะลิ" นั่นเอง ต้องถูกสิ่งแวดล้อมกดดันอย่างรุนแรง แรงขึ้นเรื่อย ๆ จนที่รอดไปได้จะผลิต "แผ่นดินทอง แผ่นดินธรรม" มาเอื้อเฟื้อญาติทางธรรมทั้งโลกได้

และในฐานะ "ต้นข้าวหอมมะลิ" ที่ถูกสิ่งแวดล้อมบีบคั้นอย่างรุนแรง ชาวไทยเราจะต้องใช้ศักยภาพของพวกเราอย่างเต็มความสามารถในการสร้างผลผลิตที่ดีเป็นเลิศ เพื่อสร้างรายได้แก่ตัวเอง มีการกระจายผลประโยชน์อย่างทั่วถึงและยุติธรรม แต่ในเมื่อประเทศไทยของเรายังต้องรออัศวินผู้ใจบุญอยู่ วันนี้คงเป็นวันที่เรายังต้องพึ่งตนเองแบบ "ร่วมด้วยช่วยกัน"

---

การพัฒนาตลาดภายในประเทศซึ่งภาษาอังกฤษเรียก โดเมสติก มาร์เก็ต ให้แข็งแรงและอิ่มตัวขึ้นแทนที่ปริมาณผลผลิตที่ต้องพึ่งการส่งออก เป็นเป้าหมายหลักที่สำคัญ

หมายความว่า ผลผลิตที่เกิดขึ้นควรมีการบริโภคเองภายในประเทศไม่ต่ำกว่า ๖๐ เปอร์เซ็นต์ต์ (หกสิบเปอร์เซ็นต์ต์)ขึ้นไป ระบบเศรษฐกิจของไทยเราจะได้ไม่ต้องหวั่นไหวไปตามแรงกระแทก แรงเปลี่ยนแปลงของโลกที่สลับซับซ้อนขึ้นทุกวัน

ศักยภาพในการออมเงินจับจ่ายใช้สอย หรือใช้ในการลงทุน ต้องเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวจากจุดที่หลุดพ้นการเป็นหนี้สินแล้ว

การปรับปรุงให้พี่น้องเกษตรกรให้เขาได้หมดหนี้แบบถาวรนั้น มีความจำเป็นที่จะต้องแก้ไขโครงสร้างทางการค้าของเกษตรกรให้เปลี่ยนแปลงไปจากปัจจุบัน โดยนำสื่อสาระสนเทศและนำตัวเชื่อมโยงใยของสังคมมาขยายฐานตลาดของเกษตรกรจากแค่มีผู้รับซื้อระดับท้องถิ่นมาเป็นระดับชาติ แต่ไม่ใช่ไปค้าขายล่วงหน้าบนตลาดสินค้าในอินเตอร์เน็ท

---

ทุกวันนี้ เกษตรกรส่วนใหญ่ยังค้าขายไม่เป็น ผลกำไรถูกตัดตอนไปหมด พ่อค้าคนกลางมีหลายชั้นจนเกินควร เกษตรกรตั้งใจทำงานหนักทั้งฤดูเพาะปลูก แต่กลับขาดทุนในบางฤดูกาลเมื่อผลผลิตล้นตลาดและระบายไม่ทัน เพราะถ้าพึ่งคนกลางกลุ่มเดียวในท้องถิ่น คนกลางเหล่านี้ก็ไม่สามารถกระจายสินค้าได้ทันท่วงทีก่อนที่ผลิตผลจะเกิดความเสียหายและสูญเสียมูลค่าไป เช่นในฤดูกาลลิ้นจี่ปีนี้ ราคาที่ชาวสวนจะขายได้ที่ตลาดในจังหวัดแพร่ลดลงเหลือกิโลละ ๓ บาท (สามบาท) เวลาตกเย็นถ้าขายไม่หมด เกษตรกรจะทิ้งเลยเพราะไม่คุ้มที่จะแบกกลับบ้าน

ระบบสาระสนเทศและสื่อเชื่อมโยงเป็นสิ่งที่ชาวไทยเรามีเหลือเฟือทุกวันนี้ เพราะด้วยการเปิดให้เอกชนสามารถมาลงทุนร่วมบริการระบบสื่อสารโทรคมนาคมแทนที่การลงทุนตามลำพังของรัฐวิสาหกิจ เช่น การสื่อสารแห่งประเทศไทย และองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย (ผมขอเรียกชื่อเดิม เพราะหน่วยงานเหล่านี้เปลี่ยนแต่ชื่อเป็นบริษัทมหาชน แต่ยังปฏิบัติตัวเป็นรัฐวิสาหกิจ) อยู่จนทุกวันนี้

และการแข่งขันของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมเกิดขึ้นมากว่า ๑๔ ปี (สิบสี่ปี) แล้ว มีบริษัทใหญ่มาร่วมทุนกับรัฐวิสาหกิจทั้ง ๒ กว่า ๕ บริษัท และทุกบริษัทลงทุนระบบเชื่อมโยงด้วยตัวเอง เนื่องจากไม่มีคนกลางจัดทำให้เช่า ระบบเชื่อมโยงนี้เขื่อมโยงเสียงพูดของเรา ข้อมูล ข่าวสาร จากตำบลหนึ่งไปอีกตำบลหนึ่ง จากตำบลไปสู่หมู่บ้าน และจากประเทศไทยไปสู่อีกประเทศหนึ่ง โดยการใช้สื่อกลางในการเชื่อมโยงชนิดต่างๆ เช่น จานดาวเทียม ระบบวิทยุไมโครเวฟ ระบบเชื่อมโยงที่เชื่อมต่อกันโดยสายทองแดง และสายเคเบิ้ลใยแก้ว

ข่าวดีของชาวไทยคือ ทุกระบบเชื่อมโยงได้ถูกโอนเป็นของรัฐ ซึ่งแปลว่าเป็นของประเทศ และแปลได้อีกว่าเป็นของประชาชนโดยกฎหมายของแผ่นดิน

ข่าวดีข้อที่สองคือ ทุกระบบนี้ทันสมัยแบบใหม่เอี่ยมล่าสุด แกะกล่องจากโรงงานทีเดียว ทันสมัยตามสากลนิยมและเลือกใช้

ส่วนสื่อเชื่อมโยงเช่น วิทยุ โทรทัศน์นั้น ก็มีมากมายแต่วันนี้ผู้จัดรายการยังต้องจัดผังรายการให้สอดคล้องกับการมอมเมา สอดรับกับความรื่นเริงครื้นเครงของประชาชาติ รายการวิทยุบริการชุมชนจึงมีน้อย ที่มีอยู่ก็ผอมเต็มที พอเข้าฤดูกาลต่อสัญญากับหน่วยงานราชการที่เป็นเจ้าของคลื่น รายการวิทยุชุมชนเหล่านี้จะแทบตายมอดม้วยไปทุกที เพราะสู้ราคาเช่าใหม่ไม่ได้

พวกผมมีรายการวิทยุชุมชนที่เรียกว่า "วิทยุชุมชนรายการร่วมด้วยช่วยกัน" เรียกสั้นๆว่า "ร่วมด้วยช่วยกัน" เมื่อคราวต่อสัญญาครั้งสุดท้ายก็เกือบกราบลาท่านผู้ฟังไปเหมือนกัน เดชะบุญ ผู้ฟังรายการกลุ่มหนึ่งซึ่งเป็น "สหกรณ์แท็กซี่" ได้รวมพลชาวแท็กชี่ที่ลานพระรูปและยกพลไปร้องเรียนหน่วยงานที่เป็นเจ้าของคลื่นให้ทบทวนความคิดใหม่ ก็รอดตายมาอีกครั้ง

รายการวิทยุชุมชนเช่น "ร่วมด้วยช่วยกัน" ต้องเกิดขึ้นในทุกจังหวัด เพราะทุกรายการแบบนี้เชื่อมโยงผู้คนในสังคมให้เกื้อกูลกัน ทั้งระดับท้องถิ่นและระดับชาติ ข่าวเช่น ของหาย น้ำท่วม ไฟฟ้าดับ น้ำประปาไม่ไหล ลิ้นจี่ถูก ข้าวอร่อยจากชาวนา สามารถถูกช่วยเหลือได้ ถ้าคนดีในสังคมท่านรู้ ท่านได้ยิน

องค์ประกอบสำคัญอีกองค์ประกอบหนึ่งของการปฏิรูปฐานะของเกษตรกร คือ คน ตัวเชื่อม ซึ่งเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของท้องถิ่น ของแผ่นดิน ผู้ซึ่งต้องมีความรู้ระดับปริญญาตรี มีเครือข่ายที่มีโครงสร้างขององค์กรที่ชัดเจน แต่สมาชิกไม่ต้องยึดสถาบันเป็นอัตตา สถาบันรวมต้องลอยตัว เครือข่ายจะยึดรวมกันด้วยอุดมการณ์ที่จะถูกปลูกฝัง ถ่ายทอด ระหว่างร่วมโครงการอยู่ด้วยกัน